บทนำ
ตราสารอนุพันธ์ในโลกของการลงทุนคือสัญญาทางการเงินที่มีมูลค่าเชื่อมโยงกับสินทรัพย์อ้างอิง เช่น พันธบัตร อัตราดอกเบี้ย สินค้าโภคภัณฑ์ และแม้แต่สกุลเงิน
พวกเมันป็นตราสารทางการเงินที่ซับซ้อนที่ใช้ได้หลายแบบ ตั้งแต่การจัดการความเสี่ยงไปจนถึงการเก็งกำไร เมื่อรวมกับตราสารทุนและตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญประเภทที่สามที่นักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถใช้เพื่อจัดการพอร์ตการลงทุนของพวกเขาได้
ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่มากและความสำคัญเชิงกลยุทธ์ตราสารอนุพันธ์และลักษณะของตราสารอนุพันธ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อนักลงทุนทุกประเภทในการสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้น
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดอ่านต่อเพื่อทำความคุ้นเคยกับอนุพันธ์ประเภททั่วไป และตัดสินใจว่ามันเป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายทางการเงินของคุณหรือไม่
ความหมายของตราสารอนุพันธ์ในโลกการเงิน
โดยพื้นฐานแล้ว ตราสารอนุพันธ์เป็นสัญญาทางการเงินระหว่างสองฝ่ายที่ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนสินทรัพย์หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
เงื่อนไขเหล่านี้อาจแตกต่างกันไป แต่เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นการแปรผันของราคา ปริมาณของสินทรัพย์ที่สนใจ และวันหมดอายุ
ตามคำแนะนำ อนุพันธ์บางตัวได้รับมูลค่ามาจากสินทรัพย์อ้างอิง พวกมันเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มการรับรู้ให้กับสินทรัพย์ที่เข้าถึงได้ยาก เช่น สินทรัพย์ที่มีราคาแพงหรือซับซ้อนกว่า
ตราสารอนุพันธ์สามารถถูกนำมาใช้เพื่อเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีราคาแพงมาก ๆ อย่างเช่นบิตคอยน์ ด้วยตราสารอนุพันธ์ คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนเพื่อเป็นเจ้าของบิตคอยน์จำนวนมากจริง ๆ เพื่อเพิ่มกำไรของคุณ หากราคาปรับตัวสูงขึ้น คุณจะได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้นด้วยมาร์จิ้นที่น้อยมาก ๆ อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลง คุณก็อาจประสบกับความสูญเสียที่มากกว่าได้
สินทรัพย์อ้างอิงของตราสารอนุพันธ์อาจเป็นได้ทุกอย่าง ตั้งแต่สินค้าที่จับต้องได้ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงสินทรัพย์ทางการเงินที่จับต้องไม่ได้เ ช่น หุ้น ดัชนี อัตราดอกเบี้ย และแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกมันมีความสำคัญอย่างมากต่อตลาด แต่ด้วยความคล่องตัวสูงดังกล่าว สถานการณ์และประเภทของสัญญาก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
คุณลักษณะและการใช้งานอนุพันธ์
ตราสาาอนุพันธ์นั้นมีรายละเอียดมาก และถูกสร้างขึ้นโดยอิงจากหลายคุณลักษณะและหลายแง่มุมที่แตกต่างกัน
หลัก ๆ ก็คือวัน วันหมดอายุ ราคาใช้สิทธิ์ และปริมาณของสินทรัพย์ที่สนใจ แต่ก็ยังมีวิธีที่เฉพาะเจาะจงมากกว่านี้ เช่น วิธีการชำระเงิน (เงินสดหรือสิ่งที่จับต้องได้) ข้อกำหนดมาร์จิ้น รูปแบบการกำหนดราคา และอื่น ๆ