ภาพรวมตลาด
จากการประมาณการครั้งแรกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ขยายตัว 3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้มาก และถือเป็นการฟื้นตัวจากการหดตัว 0.5% ในไตรมาสแรก ตัวเลขนี้ได้แรงหนุนจากการพลิกกลับของดุลการค้าและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังคงยืดหยุ่น แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าที่ปรับสูงขึ้น ข้อมูลดังกล่าวถูกตลาดมองว่าเป็น “ความแข็งแกร่งที่น่าประหลาดใจ” แม้เศรษฐกิจโดยรวมยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ในรายละเอียด การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 1.4% จาก 0.5% ในไตรมาสแรก ขณะที่การนำเข้าลดลงแรงกว่า 30% หลังจากพุ่งสูงในช่วงก่อนเพราะธุรกิจเร่งสต็อกสินค้าก่อนนโยบายภาษีของทรัมป์มีผล การเปลี่ยนแปลงด้านการค้าทำให้ตัวเลข GDP ดูแข็งแรงกว่าฐานจริง ในขณะที่การส่งออกกลับชะลอตัว และการลงทุนภาคที่อยู่อาศัยยังคงหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนแรงกดดันในเศรษฐกิจพื้นฐานที่ยังไม่คลี่คลาย
แม้ตัวเลข headline จะออกมาดูดี แต่ตัวชี้วัดสำคัญอย่าง “การขายขั้นสุดท้ายให้ผู้ซื้อภาคเอกชนภายในประเทศ” ขยายตัวเพียง 1.2% จาก 1.9% ในไตรมาสแรก และถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2022 ซึ่งสะท้อนว่าความต้องการที่แท้จริงกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่าการเติบโตในครึ่งหลังของปีอาจเหลือเพียงราว 1% ท่ามกลางแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้นและนโยบายการค้าของรัฐบาล
ด้านเงินเฟ้อ PCE ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.1% สูงกว่าเป้าหมายเพียงเล็กน้อย ส่วน Core PCE อยู่ที่ 2.5% ลดลงจาก 3.5% ในไตรมาสแรก แม้อัตราเงินเฟ้อจะชะลอลง แต่ยังอยู่ในระดับที่ Fed ต้องใช้ความระมัดระวัง สอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธาน Jerome Powell ในงาน Jackson Hole ที่ระบุว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง และ “ดุลความเสี่ยงกำลังเปลี่ยนไป” ซึ่งอาจเปิดช่องให้ Fed พิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินได้ตั้งแต่เดือนกันยายน
สำหรับรายงาน “ประมาณการครั้งที่สอง” ของ GDP ไตรมาส 2 ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจะไม่ต่างจากครั้งแรกที่ 3% ความสนใจของตลาดจึงน่าจะอยู่ที่โครงสร้างย่อย เช่น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนเอกชน มากกว่าตัวเลข headline ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาท่าทีของ Fed ในการประชุมเดือนกันยายน ว่าจะตีความตัวเลขการเติบโตที่ดูแข็งแรงทางเทคนิคนี้อย่างไร ท่ามกลางแรงกดดันด้านภาษีและสัญญาณอ่อนแรงของตลาดแรงงาน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
US500
ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือกรอบแนวรับสีแดงได้อย่างมั่นคง การยืนเหนือระดับดังกล่าวถือเป็นสัญญาณยืนยันว่าตลาดยังคงรักษาโครงสร้างขาขึ้นเอาไว้อย่างแข็งแรง ขณะเดียวกันทิศทางราคายังสอดคล้องกับการเคลื่อนตัวภายในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนว่าความเชื่อมั่นของฝั่งซื้อยังคงมีอิทธิพลสูงต่อทิศทางตลาด การที่ราคายังไม่หลุดออกจากโครงสร้างแนวโน้มนี้ แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมเชิงบวกยังไม่ถูกทำลาย และแนวโน้มโดยรวมยังคงเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 6,550 จุด
US500 (H4)

US100
ราคาของ US100 แม้จะมีการปรับตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถหลุดทะลุกรอบแนวรับสีแดงลงมาได้อย่างชัดเจน การยืนเหนือแนวรับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงหนุนราคาไม่ให้ไหลลงต่อไปได้ง่าย นอกจากนี้โครงสร้างราคายังเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโมเมนตัมฝั่งขาขึ้นที่ยังไม่ถูกทำลาย ตราบใดที่ราคายังยืนเหนือแนวรับและรักษาช่องทางขาขึ้นนี้ไว้ได้ ก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 24,100 จุด ได้อีกครั้งUS100
