ภาพรวมตลาด
แม้เศรษฐกิจจีนจะยังเผชิญความท้าทายอยู่ไม่น้อย แต่สัญญาณการฟื้นตัวเริ่มชัดเจนขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนสิงหาคมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 49.4 แม้จะยังต่ำกว่าเกณฑ์ขยายตัว แต่ก็สะท้อนว่าการหดตัวเริ่มชะลอลง ขณะเดียวกัน PMI ภาคบริการปรับขึ้นสู่ระดับ 50.3 แสดงให้เห็นว่าแรงขับเคลื่อนจากภาคบริการ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดทุน โทรคมนาคม และการคมนาคม กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ดัชนีย่อยในภาคเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยา ยังคงแสดงการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมทั้งการจ้างงานและรายได้ภายในประเทศในระยะถัดไป
ด้านการค้า แม้จีนยังถูกกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่ตัวเลข GDP ไตรมาสสองที่ขยายตัว 5.2% สูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 5.1% ถือเป็นสัญญาณบวกว่านโยบายกระจายตลาดส่งออกเริ่มเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะการส่งออกไปยังอาเซียนที่เพิ่มขึ้นกว่า 18% และการส่งออกโลหะหายากที่พุ่งกว่า 32% ซึ่งสะท้อนศักยภาพในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมจีน การที่การส่งออกโดยรวมในเดือนมิถุนายนเติบโตได้ 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ยังช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกลับเข้าสู่เศรษฐกิจและสร้างแรงหนุนต่อค่าเงินหยวน (CNH) อีกด้วย
ในด้านนโยบายการเงิน รัฐบาลจีนยังคงเลือกแนวทางที่ระมัดระวัง โดยการคงอัตราดอกเบี้ย LPR ไว้ที่ระดับเดิมเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวในระยะกลางยังดำเนินต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งมาตรการกระตุ้นแบบกว้างขวาง ทั้งนี้ จีนหันมาใช้มาตรการเฉพาะจุด เช่น การอุดหนุนดอกเบี้ยแก่ภาคบริการ และโครงการสนับสนุนการจ้างงานเยาวชน การรักษาสมดุลเช่นนี้ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความมั่นคง และมีแนวโน้มเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินหยวนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดยังไม่หมดไป โดยดัชนี PPI ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 33 และ CPI แม้จะขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่รัฐบาลก็เร่งออกมาตรการกระตุ้น เช่น การอุดหนุนราคาสินค้าและการส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศ ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานในเขตเมืองลดลงเหลือ 5% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมาย สะท้อนว่านโยบายแรงงานเริ่มให้ผลชัดเจน การสร้างเสถียรภาพในตลาดแรงงานควบคู่กับการพยุงกำลังซื้อภายใน จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง และหนุนการแข็งค่าของ CNH ได้ในระยะกลางถึงยาว
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
USDCNH
คู่เงิน USDCNH จะเห็นได้ว่าราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่ากรอบแนวต้านสีแดงอย่างชัดเจน และยังถูกกดดันให้อยู่ในกรอบเทรนไลน์ขาลงต่อเนื่อง การที่ราคายังไม่สามารถทะลุกรอบแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ บ่งบอกถึงแรงขายที่กดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โมเมนตัมขาลงยังคงแข็งแกร่งอยู่ แม้จะมีแรงดีดกลับขึ้นมาในบางช่วงแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแนวโน้มหลัก ทำให้ราคายังมีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 7.0913
USDCNH (H4)
