FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

20 มี.ค. 2025

พื้นฐาน

ดัชนีราคาผู้บริโภคคืออะไร?

MDP-7744_2_1200x675_TH.png

CPI ย่อมาจากอะไร?

ดัชนีราคาผู้บริโภคเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาโดยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ที่ผู้บริโภคต้องจ่ายสำหรับสินค้าและบริการต่าง ๆ ในตะกร้าสินค้า เช่น อาหาร พลังงาน ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า การขนส่ง การรักษาพยาบาล ความบันเทิง และการศึกษา

การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคถูกใช้เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เชื่อมโยงกับค่าครองชีพ การประเมินที่แม่นยำของการเปลี่ยนแปลงของค่าครองชีพมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคคลและองค์กรต่าง ๆ อย่างเช่น ธนาคารกลาง

ตะกร้าสินค้าคืออะไร?

ตะกร้าสินค้า คือ กลุ่มสินค้าและบริการสำหรับผู้บริโภคที่ถูกกำหนดไว้อย่างคงที่ ซึ่งราคาของสินค้าและบริการเหล่านี้จะถูกประเมินอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือนหรือทุกปี จุดประสงค์ของการสร้างตะกร้าสินค้านี้ขึ้นมาคือเพื่อติดตามอัตราเงินเฟ้อในตลาดหรือประเทศ หากราคาของตะกร้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2% ในหนึ่งปี ก็สามารถกล่าวได้ว่าอัตราเงินเฟ้อเท่ากับ 2% เช่นกัน ตะกร้าสินค้านี้เป็นตัวอย่างที่ควรสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจ นั่นคือเหตุผลที่สินค้าบางอย่างจะถูกแทนที่ด้วยสินค้าอื่นเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป

*ตะกร้าสินค้าประกอบด้วยอาหารและเครื่องดื่มพื้นฐาน เช่น นมและกาแฟ นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์ ค่าขนส่ง การรักษาพยาบาล ของเล่น และแม้แต่ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและการสื่อสารก็ถูกบรรจุอยู่ในตะกร้าสินค้าด้วย เช่นเดียวกับสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น ยาสูบ การตัดผม และงานศพ

จะหาข้อมูล CPI ได้ที่ไหน?

ราคาผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญของอัตราเงินเฟ้อโดยรวม คุณอาจสังเกตเห็นว่าเราใช้คำว่า "อัตราเงินเฟ้อ" แทนที่ CPI ในปฏิทินเศรษฐกิจของเรา คำศัพท์เหล่านี้สามารถใช้แทนกันได้และทั้งสองก็อ้างถึงข้อมูลเดียวกัน

รายงานนี้มีสองรูปแบบ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ทั้งสองนั้นแตกต่างกันตรงที่ตัวบ่งชี้พื้นฐานจะไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเนื่องจากสินค้าเหล่านั้นมีความผันผวนที่สูง

MDP-7744_3_1200x400_TH.png

นอกจากนี้ ยังมีตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่ใช้วัดอัตราเงินเฟ้อ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดัชนีราคาค้าส่ง (WPI) และดัชนีราคาค้าปลีก (RPI) อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภคมักจะส่งผลกระทบมากกว่าในแง่ของการเทรดฟอเร็กซ์

ใช้ CPI อย่างไรดี?

ดังที่ได้กล่าวไป ดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นเครื่องมือวัดอัตราเงินเฟ้อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด มันแสดงให้รัฐบาล ธุรกิจ และประชาชนเห็นว่าค่าใช้จ่ายในเศรษฐกิจของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยอิงจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกจะสามารถคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคต นายจ้างจะสามารถคำนวณค่าจ้าง และรัฐบาลจะสามารถกำหนดการปรับเพิ่มค่าครองชีพได้

เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อำนาจการซื้อจะลดลง ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลงในราคาเดิมเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ในทางกลับกัน เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง อำนาจการซื้อจะเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าและบริการได้มากขึ้นในราคาเดิม ซึ่งหมายความว่าหน่วยเงินแต่ละหน่วย (เช่น หนึ่งดอลลาร์) จะมีมูลค่ามากขึ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ คือ ธนาคารกลางมักตัดสินใจนโยบายโดยอิงจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดังนั้น ไม่เพียงแต่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่ออกมาจริงเท่านั้น แต่แม้แต่ความคาดหวังของเทรดเดอร์ที่มีต่อการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคก็สามารถเพิ่มความผันผวนในตลาดฟอเร็กซ์ได้

  • ราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้เงินตราของประเทศแข็งค่าขึ้น (มูลค่าเพิ่มขึ้น)

  • ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อต่ำเกินไป ธนาคารกลางอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินตราของประเทศ (มูลค่าลดลง) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดัชนีราคาผู้บริโภคส่งผลกระทบต่อการเทรดฟอเร็กซ์อย่างไรบ้าง?

การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคมักจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในตลาดฟอเร็กซ์ โปรดทราบว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องเฉพาะกับประเทศที่มีสกุลเงินที่มีสภาพคล่องเท่านั้น

จากข้อมูลสภาพคล่อง สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลกแบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ คู่สกุลเงินหลัก (Major) คู่สกุลเงินรอง (Minor) และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic) สกุลเงินหลักเป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมและมีสภาพคล่องสูงที่สุด ซึ่งรวมถึงดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอร์ลิง ยูโร เยนญี่ปุ่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์แคนาดา ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

เทรดตามข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคอย่างไรดี?

เทรดเดอร์จะเปรียบเทียบข้อมูลคาดการณ์กับข้อมูลที่ออกมาจริงของดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้ในปฏิทินเศรษฐกิจ

  • หากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่ออกมาจริงมากกว่าที่คาดการณ์ สกุลเงินจะปรับตัวขึ้น

  • หากตัวเลขจริงของดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สกุลเงินจะปรับตัวลง

เป็นความคิดที่ดีที่จะตรวจสอบเวลาการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคครั้งถัดไปล่วงหน้า เปิดกราฟที่แสดงสกุลเงินของประเทศที่กำลังประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค และสังเกตการเคลื่อนไหวของราคา ด้วยวิธีนี้ เมื่อข้อมูลออกมา คุณจะพร้อมเหนี่ยวไกอย่างเต็มที่

แล้วตลาดหุ้นล่ะ? จะได้รับผลกระทบจากดัชนีราคาผู้บริโภคด้วยไหม? โดยทั่วไปแล้ว ตลาดหุ้นมักไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค แต่บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้! เงินเฟ้อที่สูงขึ้นและตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ดังนั้น โดยปกติแล้ว ตลาดหุ้นมักชอบดัชนีราคาผู้บริโภคต่ำ ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคยังคงสามารถใช้จ่ายได้และธุรกิจยังคงลงทุนได้มากขึ้นอีก

ตัวอย่าง

ตัวอย่างเช่น สำนักงานสถิติแรงงานได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา (อัตราเงินเฟ้อ) เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ดัชนีราคาผู้บริโภคได้ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดูภาพหน้าจอของปฏิทินเศรษฐกิจด้านล่างนี้สิ

MDP-7744_4_1200x400_TH.png

ส่งผลให้ USDJPY ปรับตัวขึ้น 300 จุดภายในเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากการประกาศ! ในกราฟด้านล่าง คุณจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

MDP-7744_5_1200x675_TH.png

ไปดูตัวอย่างดัชนีราคาผู้บริโภคที่ต่ำกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์กัน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม CPI (อัตราเงินเฟ้อ) ของแคนาดาได้ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยอยู่ที่ 0.3% เทียบกับการประมาณการของตลาดที่ 0.4%

MDP-7744_6_1200x400_TH.png

หลังการประกาศ CADJPY ได้ปรับตัวลง 140 จุด ในเวลาเพียง 30 นาที! แน่นอนว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างเช่นดัชนีราคาผู้บริโภคมักจะทำให้กราฟเกิดการแกว่งตัวครั้งใหญ่ เทรดเดอร์ควรติดตามการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาดังกล่าว

MDP-7744_7_1200x675_TH.png

เกิดอะไรขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อบ้างในตอนนี้?

หลังจากช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อสูงเป็นพิเศษในช่วงหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากโรคระบาด แรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้คลี่คลายลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดัชนีราคาผู้บริโภคสะท้อนแนวโน้มนี้ โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงจากจุดสูงสุดที่ 9.1 เปอร์เซ็นต์ ในฤดูร้อนปี 2022 เหลือ 3 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงต้นปี 2025 ธนาคารกลางนิวยอร์กได้สำรวจธุรกิจในภูมิภาคเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนและราคา รวมถึงความคาดหวังของพวกเขาที่มีต่อเงินเฟ้อในอนาคต กลุ่มบริษัทภาคการบริการระบุว่าทั้งต้นทุนธุรกิจและการเพิ่มขึ้นของราคาขายยังคงปรับตัวลดลงตลอดปี 2024 ในทางตรงกันข้าม กลุ่มบริษัทภาคการผลิตรายงานว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อมองไปข้างหน้า ธุรกิจต่าง ๆ ต่างคาดว่าทั้งต้นทุนและราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2025 นอกจากนี้ ความคาดหวังด้านเงินเฟ้อในอีกหนึ่งปีข้างหน้าได้เพิ่มขึ้นจาก 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปีที่แล้วเป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มบริษัทภาคการผลิต และ 4 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มบริษัทภาคการบริการ ขณะที่ความคาดหวังด้านเงินเฟ้อในระยะยาวยังคงที่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์

โปรดติดตามข่าวสารของเราเพื่อให้ไม่พลาดรายงานเศรษฐกิจสำคัญ!

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
App Store
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/31 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น