ภาพรวมตลาด
เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน การบริโภคที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในหมวดการเดินทางและขนส่ง สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อภายในประเทศเริ่มกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังแรงกดดันจากราคานำเข้าผ่อนคลายลงและการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การที่รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินแนวโน้มการบริโภคเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี จึงเป็นสัญญาณชัดเจนว่า “อุปสงค์ในประเทศกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ” ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาคค้าปลีก การบริการ และกลุ่มสินค้าคงทนในดัชนี JP225
ในด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% พร้อมรักษาประมาณการเศรษฐกิจโดยรวมแทบไม่เปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ “ระมัดระวัง” มากกว่าที่จะเร่งเข้มงวดการเงิน ผู้ว่าการ Kazuo Ueda ระบุว่าธนาคารกลางต้องการรอข้อมูลเพิ่มเติมจากการเจรจาค่าจ้างรอบใหม่ (Shunto) ก่อนตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนี้ช่วยตรึงต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจให้อยู่ในระดับต่ำ และรักษาสภาพคล่องในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มวัฏจักรและเทคโนโลยีที่ต้องอาศัยเงินทุนหมุนเวียนจากตลาดภายในประเทศ
สำหรับภาคต่างประเทศ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงมาแตะบริเวณ 153 เยนต่อดอลลาร์ กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้การส่งออกฟื้นตัว 4.2% เมื่อเทียบรายปี หลังจากหดตัวติดต่อกันมาถึง 4 เดือน แม้ยอดขายไปสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากภาษีขาเข้า แต่ความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกญี่ปุ่นในตลาดเอเชียและยุโรปที่ดีขึ้นกลับช่วยชดเชยได้อย่างมีนัยสำคัญ การอ่อนค่าของเยนยังเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อกำไรของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง เช่น กลุ่มยานยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกลุ่มแกนหลักของดัชนี JP225 ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นญี่ปุ่นอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคญี่ปุ่นก็ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงเสริมเชิงจิตวิทยาที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจภายในประเทศ ดัชนีความเต็มใจซื้อสินค้าคงทนที่ปรับเพิ่มขึ้น และดัชนีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ล้วนสะท้อนถึงความมั่นใจต่อรายได้ในอนาคตที่เพิ่มขึ้น แม้ตลาดแรงงานจะผ่อนคลายลงเล็กน้อยและอัตราการว่างงานจะขยับสูงขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการลาออกเพื่อเปลี่ยนงานไปยังตำแหน่งที่ดีกว่า ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแรงของตลาดแรงงานมากกว่าความเปราะบาง เมื่อรวมกับนโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลาย การส่งออกที่ฟื้นตัว และค่าเงินเยนที่อ่อนในระดับเหมาะสม ภาพรวมทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นแรงขับสำคัญต่อการเติบโตของกำไรภาคธุรกิจ และสร้างเงื่อนไขพื้นฐานที่เอื้อต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนี JP225 อย่างต่อเนื่องในระยะกลาง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
JP225
ดัชนี JP225 ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคายังทรงตัวเหนือกรอบแนวรับสีแดงได้อย่างมั่นคง และเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่งและสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปรับตัวของราคาที่ทะลุระดับแนวต้านเดิมและยืนได้เหนือโซนสะสมนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดยังคงเชื่อมั่นในทิศทางบวกของดัชนี ทั้งนี้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 54,500 จุด ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดกรอบแนวรับบริเวณ 47,200 จุดลงมาอย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณเตือนว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 44,300 จุด ซึ่งตลาดอาจใช้เป็นจุดรองรับเพื่อประเมินทิศทางรอบใหม่
JP225 (DAILY)

